รูมาตอยด์ กับ ข้ออักเสบ โรคอันตรายที่ทำร้ายข้อแบบเรื้อรังทั้งคู่ แต่โรคนี้ก็อาจสร้างความสับสนให้คุณได้ไม่น้อย เพราะอาการแรกเริ่มที่แทบไม่ได้แตกต่างกัน เพราะทั้งสองโรคก็ทำให้คุณรู้สึกปวด บวม แดงร้อนตามข้อโดยไม่รู้สาเหตุ ซึ่งเป็นโรคที่ซ่อนตัวเงียบๆ แต่ถ้าทิ้งไว้นาน ก็มีสิทธิ์ทำลายข้อได้แบบถาวร และหากคุณแยกไม่ออกตั้งแต่ต้น ต้นทุนสุขภาพอาจต้องจ่ายแพงแบบไม่คุ้มแน่นอนครับ
รูมาตอยด์เกิดจากอะไร ปล่อยไว้อาจกลายเป็นเรื้อรัง
รูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) ไม่ใช่โรคข้อเสื่อมตามอายุ แต่มันคือ โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง โดยจะทำลายเยื่อหุ้มข้อ (Synovium) จนทำให้เกิดการอักเสบ และบวมตามข้อต่างๆ อย่าง ข้อมือ ข้อนิ้วมือ ข้อเท้า ข้อศอก รวมไปถึงข้อเข่าได้ด้วย ผลลัพธ์คือ ข้อบวม ปวด ขยับลำบาก และสุดท้ายข้ออาจเสียรูปถาวร
แม้ว่าโรครูมาตอยด์จะยังไม่มีวิจัยที่แน่ชัดถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้ แต่ก็มีปัจจัยที่เหล่านี้ที่บ่งบอกถึงความเสี่ยงในการเป็นรูมาตอยด์ได้ เช่น
- อายุจริงๆแล้ว โรครูมาตอยด์สามารถเกิดได้กับทุกวัย ไม่เว้นแม้แต่ในวัยหนุ่มสาว และวัยสูงอายุ แต่ส่วนมากมักพบผู้ป่วยในช่วงอายุ 40 – 60 ปี
- พันธุกรรม หากพ่อแม่เป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ จะส่งผลให้ลูกมีความเสี่ยงเป็นโรครูมาตอยด์ สูงกว่าคนทั่วไป
- เพศหญิง มีแนวโน้มในการเป็นโรครูมาตอยด์ สูงกว่าผู้ชายมากถึง 3 เท่า
- ความอ้วน ผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือเป็นโรคอ้วน มีโอกาสที่จะเป็นโรครูมาตอยด์มากกว่าคนทั่วไป
- การสูบบุหรี่ นอกจจากจะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรครูมาตอยด์แล้ว ในรายที่เป็นอยู่แล้ว การสูบบุหรี่ยังสามารถเพิ่มความรุนแรงของโรคให้ร้ายแรงกว่าเดิมได้ด้วย
- ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม อาจได้รับสารเคมีบางอย่างที่ผ่านการสัมผัส หรือผ่านการสูดดม สามารถทำให้เป็นโรครูมาตอยด์ได้ เช่น ใยหิน และซิลิก
สิ่งที่คนเป็น โรครูมาตอบด์ ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจมีส่วนทำให้อาการกำเริบ ได้แก่
- อาหารที่ถูกขัดสี พบได้ในน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรต สิ่งเหล่านี้เต็มไปด้วยสาร AGE ที่กระตุ้นให้เกิดโรค
- อาหารประเภททอด เนื่องจากมีสาร AGE เป็นสารพิษที่ส่งผลเสียต่อร่างกายสามารถกระตุ้นการเกิดโรครูมาตอยด์ได้
- อาหารที่กระตุ้นให้เกิดกรด เช่น ถั่ว หรือโปรตีนจากสัตว์ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกาแฟ
- นมทุกชนิด เนื่องจากโปรตีนจะกระตุ้นอาการที่ข้อได้
- อาหารอบ หรืออาหารทานเล่น เนื่องจากอาหารเหล่านี้เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า 6 ที่สามารถกระตุ้นโรครูมาตอยด์ได้
- อาหารที่มีไขมันไม่ดี (LDL) พบได้ในเนื้อสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ปีก หรือในชีส ขนมเค้ก เป็นต้น
สิ่งที่น่ากลัวของโรครูมาตอยด์คือ หากปล่อยไว้โดยไม่รู้ตัวในช่วงต้น มันสามารถทำลายข้อต่อได้เรื่อยๆ จนถึงขั้นพิการ และที่แย่คือ ไม่มีทางรักษาให้หายขาด มีแต่การควบคุมอาการให้ช้าลง หรือหนักเข้าอาจจะต้องถึงการผ่าตัดข้อเลยทีเดียวครับ
ชี้ให้ชัด ปวดเข่า เสียวข้อ อาจเกิดจากข้ออักเสบ
อย่างที่บอกว่า รูมาตอยด์ กับ ข้ออักเสบ เป็นโรคที่อาการเริ่มแรกใกล้เคียงกันจนทำให้คุณเกิดการสับสนได้ แต่ไม่ใช่ทุกอาการปวดข้อจะหมายถึงรูมาตอยด์เสมอไป หากคุณมีอาการปวดเข่า เสียวข้อ บวม แดง ร้อน เคลื่อนไหวยาก นั่นอาจบ่งบอกได้ว่าคุณกำลังเผชิญอยู่กับ “โรคข้ออักเสบ” ก็เป็นได้
ซึ่งโรคข้ออักเสบ คืออาการบาดเจ็บที่ข้อต่อ อาการปวดตามข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกาย โดยส่วนมากที่พบจะมีอาการปวด เมื่อย บวม บริเวณข้อต่อ อย่าเช่นข้อเข่าที่คนส่วนใหญ่เป็นกันมาก ส่งผลให้การเคลื่อนไหวลดลง ข้อฝืด ติดขัด ถึงแม้ข้ออักเสบจะเป็นอาการเจ็บป่วยเฉพาะจุดที่ดูเล็กน้อย แต่การปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้อาการอักเสบรุนแรงกว่าเดิม ถึงขั้นเคลื่อนไหวไม่ได้ เพราะโรคได้พัฒนากลายเป็นข้อเสื่อมไปแล้วนั่นเองครับ
สาเหตุก็อาจเกิดจากการใช้งานข้อเข่ามาอย่างหนัก เช่น วิ่งเยอะ ออกกำลังกายโดยใช้ข้อเข่าประจำ ยกของหนักบ่อย ชอบนั่งพับขา งอเข่า หรือแม้แต่มีน้ำหนักตัวที่เกินเกณฑ์ ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคข้ออักเสบนี้ตามมาได้นั่นเองครับ
นอกเหนือจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว ยังมีสาเหตุอื่นๆ เพิ่มเติมที่ทำให้มีความเสี่ยงเกิดข้ออักเสบได้อีกด้วย
- เพศ : จากการศึกษาจะพบว่า ในเพศหญิงมีความเสี่ยงข้ออักเสบมากกว่าเพศชาย 2-3 เท่า เนื่องจากการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่เป็นตัวป้องกันความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อเข่า โดยเฉพาะในคนที่เข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือน ยิ่งทำให้เกิดง่ายกว่าปกติ
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น : เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยมากที่สุด เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้นความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อ กล้ามเนื้อ และเส้นประสาทก็จะเสื่อมลงตามวัย โดยอายุ 40 ปี เริ่มมีข้อเสื่อม อายุ 55 ปีขึ้นไป จะเริ่มมีอาการปวดเข่า เข่าเสื่อม และอายุ 60 ปี จะเป็นข้อเข่าเสื่อมได้ถึงร้อยละ 40
- กรรมพันธุ์ : จากการศึกษาพบว่า กรรมพันธุ์ก็มีความเกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบได้ โดยคนไข้ที่มีคนในครอบครัว หรือญาติพี่น้องเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม หรืออักเสบ ก็มีโอกาสที่จะเป็นได้มากขึ้น
ถ้าคุณมีอาการเหล่านี้ซ้ำๆ หรือมีปัจจัยที่เข้าข่ายกับสิ่งที่กล่าวมาด้านบน ก็อย่าชะล่าใจ และรีบหาทางดูแลข้อให้ดี อย่ารอให้ข้อพังเพราะอาจยากต่อการรักษาในอนาคตได้นั่นเองครับ
เข่าเสื่อม ข้ออักเสบ ลดเสี่ยงด้วยโพรเมอริม
ลดความเสี่ยงข้อเข่าอักเสบ ข้อเสื่อม ต้องจัดการที่ต้นเหตุ อย่าง กระดูกอ่อนผิวข้อ เข่าสึกหรอ ผุกร่อน เสื่อมสภาพจากการใช้งาน การกินยาบรรเทาปวดเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุครับ ทางเลือกที่ดีกว่าคือการฟื้นฟูความเสียหายของกระดูกอ่อนผิวข้อ เติมเต็มโครงสร้างในข้อต่อให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง จะทำให้ความเจ็บปวดอักเสบหายไป
ใครไม่อยากให้ชีวิตติดยา เลือกบำรุงข้อเข่าจากต้นเหตุด้วยสารสกัด โพรเมอริม ไบโอแอคทีฟ ฟื้นฟูสภาพข้อเข่าได้อย่างตรงจุด สารสกัดจากธรรมชาติ มีวิจัยจากฝรั่งเศสยืนยันแล้วว่า จัดการตรงจุดได้ยิ่งกว่า เพราะโพรเมอริมเข้าไปลดการปวดอักเสบบวมแดง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่เป็นส่วนประกอบหลักในการผลิตเซลล์กระดูกอ่อนขึ้นมาทดแทน ยับยั้งเอนไซม์ในกระบวนการสลายเซลล์กระดูกอ่อน จึงช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์กระดูกอ่อนและน้ำในข้อได้ บอกลาอาการปวดเข่า เจ็บเข่าอย่างได้ผล ทั้งกระตุ้น ฟื้นฟู และรักษาอาการได้รวดเร็วและครอบคลุมกว่า เลือก โมเวล (Movell) นวัตกรรมเพื่อ ข้อและกระดูก จากฝรั่งเศส ประโยชน์เต็มๆแบบ 2 in 1 เพราะมีสารสกัด โพรเมอริม ไบโอแอคทีฟ มาทริไคน์คอลลาเจน และแคลเซียมจากสาหร่ายสีแดง โครงสร้างแบบรังผึ้ง (Honey comb) ช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้มากกว่า 86.5% โกงอายุข้อได้ง่ายๆ แค่ให้โมเวลดูแล