กินจุ ติดของหวาน ชอบทานของทอด กอดขวดแอลกอฮอล์ รอเวลาปาร์ตี้ ระวังจะซี้ม่องเท่งเพราะ ไขมันพอกตับ ตับเป็นเหมือนพี่ใหญ่ที่คอยสั่งการ สนับสนุน และช่วยเหลืออวัยวะอื่นๆ ให้ทำงานได้ลื่นไหลคล่องแคล่ว ตับจะคอยสะสมเสบียงอาหารไว้ให้ร่างกายสามารถดึงออกมาใช้ได้ในยามที่ต้องการพลังงาน ทั้งไกลโคเจน ธาตุเหล็ก และวิตามินต่างๆ เปลี่ยนโครงสร้างสารอาหารให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ สร้างน้ำดีช่วยลำไส้ในการย่อยไขมัน และคอยกำจัดของเสียที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

แต่หากเราบริโภคน้ำตาลและไขมันมากเกินความจำเป็น เมื่อหมดพื้นที่จะพอกแล้ว ไขมันส่วนเกินที่เหลือก็จะมากองอยู่ที่ตับแทน จังหวะนี้แหละที่เรียกว่าไขมันพอกตับ แต่ตับก็ยังคงทำงานอย่างเต็มสูบอยู่เหมือนเดิม เรียกว่าทำจนตัวตายเลยก็ว่าได้ แต่ก็เหมือนกับทำงานเท่าเดิมโดยใช้คนงานน้อยลง จึงต้องทำงานอย่างหนักทุกวันทุกวัน ตับก็ค่อยๆ เสียหายไปทีละน้อย เมื่อตับสะสมไขมันมากเข้า เซลล์ตับจะค่อยๆ เปลี่ยนไปจนกลายเป็นตับแข็ง และอาจพัฒนากลายไปเป็นมะเร็งตับได้ ถึงตอนนั้นก็สายเกินเยียวยา
มาดูกันว่าปริมาณที่ “เหมาะสม” จริง ๆ ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) คือเท่าไร
น้ำตาล: ไม่เกิน 24 กรัมต่อวัน
WHO แนะนำไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด (≈ 50 กรัม) และหากต้องการผลดีต่อสุขภาพ ควรลดเหลือไม่เกิน 5% หรือประมาณ 24 กรัมต่อวันโดยสำหรับคนทั่วไปที่กินอาหารวันละ 2,000 กิโลแคลอรี
ควรบริโภคน้ำตาล ไม่เกิน 6 ช้อนชา หรือประมาณ 24 กรัมต่อวัน
ตัวอย่างให้เห็นภาพชัด ๆ
- น้ำอัดลม 1 กระป๋อง (325 ml) มีน้ำตาลประมาณ 8–10 ช้อนชา
- ชาเย็น / ชาเขียวรสหวาน 1 ขวด มีน้ำตาลประมาณ 6–8 ช้อนชา
- กาแฟเย็นใส่นมข้นหวาน 1 แก้ว มีน้ำตาลประมาณ 5–6 ช้อนชา
- ขนมเค้ก 1 ชิ้นกลาง มีน้ำตาลประมาณ 4 ช้อนชา
หากกินเกินปริมาณนี้เป็นประจำ น้ำตาลส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในตับและร่างกาย ทำให้เกิด “ภาวะไขมันพอกตับ” น้ำหนักเกิน เบาหวาน และเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งตับในระยะยาว
ไขมัน: ไม่เกิน 65 กรัมต่อวัน
ไขมันเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ แต่หากได้รับมากเกินไป โดยเฉพาะ ไขมันอิ่มตัว (Saturated fat) จะทำให้ไขมันในเลือดสูง เสี่ยงโรคหัวใจ และตับทำงานหนักขึ้น
กรมอนามัยแนะนำว่า
ควรบริโภคไขมันรวม ไม่เกิน 30% ของพลังงานทั้งหมดต่อวัน
หรือคิดเป็น ประมาณ 65 กรัมต่อวัน สำหรับคนที่ต้องการพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี
ตัวอย่างไขมันในอาหารทั่วไป
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ = ประมาณ 14 กรัมไขมัน
- หมูสามชั้นทอด 1 ชิ้น = ประมาณ 20 กรัมไขมัน
- เค้กเนย 1 ชิ้นเล็ก = ประมาณ 15 กรัมไขมัน
- นมสดเต็มมันเนย 1 แก้ว = ประมาณ 8 กรัมไขมัน
เคล็ดลับดี ๆ
- หันมาใช้น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันมะกอกแทนน้ำมันปาล์ม
- ลดอาหารทอด เปลี่ยนเป็นต้ม หรือนึ่ง
- เลือกเนื้อไม่ติดมันและปลาแทนเนื้อสัตว์ไขมันสูง
รู้อย่างนี้แล้วต้องรีบปรับพฤติกรรมการกิน ก่อนไขมันพอกตับจะลุกลามจนเกินเยียวยา แล้วปกป้องพี่ใหญ่อย่างตับของเราด้วย #เฮฟฟีก้า อาหารเสริมดูแลตับที่มี #พรูนัสมูเม่ สารสกัดหลักจากธรรมชาติ มีคุณสมบัติออกฤทธิ์ปกป้องเซลล์ตับ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือดและลดไขมันพอกตับด้วยการยับยั้งสารสื่อกลางการอักเสบของเอนไซม์ตับ นวัตกรรมจากประเทศเบลเยียม ที่มีผลงานวิจัยทางการแพทย์รับรองถึงประสิทธิภาพในการทำงานและได้ผลจริงในคน ได้รับความน่าเชื่อถือระดับสูงและได้มาตรฐานทั้งในประเทศไทยและระดับสากล

