ฮอร์โมน เมลาโทนิน ทำงานผิดปกติทำให้เรานอนหลับยาก

ตับมีหน้าที่กำจัดสารพิษ ขับของเสียออกจากร่างกาย รวมถึง เมลาโทนิน ก็ถูกขับออกจากร่างกายผ่านตับด้วยเช่นกัน เมลาโทนินคือ ฮอร์โมนที่ทำให้เรารู้สึกง่วงและหลับไปในที่สุด ถ้าตับมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง อาจเกิดจากความเครียด ทำงานหนัก กินไขมันและน้ำตาลเกินพอดี เป็นต้น ก็เท่ากับว่าประสิทธิภาพในการขับเมลาโทนินออกจากร่างกายลดลงไปด้วย ทำให้ เมลาโทนินตกค้าง ในร่างกาย

เมลาโทนินตกค้าง ภัยเงียบที่ส่งผลต่อการนอนและสุขภาพ

เมลาโทนิน (Melatonin) เป็นฮอร์โมนที่ร่างกายหลั่งออกมาตามธรรมชาติเมื่อถึงเวลากลางคืน โดยเฉพาะในช่วงที่มืดสนิท ฮอร์โมนชนิดนี้ทำหน้าที่เป็นเหมือน “สวิตช์พักผ่อน” ของร่างกาย คอยบอกว่านี่คือเวลาที่ควรนอน เพื่อให้วงจรการนอนหลับและการตื่นในแต่ละวันเป็นไปตามนาฬิกาชีวภาพที่สมดุล อย่างไรก็ตาม หลายคนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมเมลาโทนินเพื่อช่วยแก้ปัญหาการนอนไม่หลับ หรือการนอนที่ไม่มีคุณภาพ หากใช้ไม่ถูกวิธีหรือเกินความจำเป็น อาจทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า “เมลาโทนินตกค้าง” ซึ่งเป็นการสะสมของฮอร์โมนนี้ในร่างกายมากเกินไป ยิ่งใครที่มีปัญหาสุขภาพตับด้วยแล้ว การขจัดเมลาโทนินในก็จะไม่มีประสิทธิภาพ เลยเป็นเหตุทำให้เกิดการอ่อนเพลียระหว่างวันได้นั่นเองครับ

เมื่อเมลาโทนินตกค้าง จะเกิดอะไรขึ้น?

โดยปกติ ร่างกายจะหลั่งเมลาโทนินตามธรรมชาติในปริมาณที่เหมาะสม หากมีการตกค้าง ร่างกายจะเข้าใจผิดว่าไม่จำเป็นต้องสร้างเพิ่ม ส่งผลให้วงจรการผลิตเมลาโทนินถูกรบกวน เมื่อตกกลางคืนแทนที่จะง่วง กลับไม่รู้สึกง่วงหรือหลับยากขึ้น นี่คือจุดเริ่มต้นของ วัฏจักรปัญหาการนอนหลับ ที่ทำให้ร่างกายอ่อนล้าเรื้อรัง

อาการที่พบบ่อย

  • ตอนกลางคืนไม่ง่วง หลับช้า หลับไม่สนิท
  • เมื่อตื่นเช้ามาจะรู้สึก ไม่สดชื่น เหมือนร่างกายยังพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ปวดหัว หนักศีรษะ อารมณ์หงุดหงิดง่าย
  • ตอนกลางวันรู้สึกง่วงซึม สมาธิลดลง ประสิทธิภาพในการทำงานหรือเรียนแย่ลง
  • หากเป็นต่อเนื่องนาน ๆ จะเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ความจำเสื่อม ภาวะซึมเศร้า และโรคเกี่ยวกับหัวใจ

ทำไมการนอนไม่พอเพียงคืนเดียวจึงกระทบหนัก?

หลายคนคิดว่าการนอนไม่พอแค่คืนเดียวไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่แท้จริงแล้ว การที่ร่างกายไม่ได้พักผ่อนเพียงพอจะส่งผลต่อฮอร์โมนอื่น ๆ ด้วย เช่น ฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) ที่จะสูงขึ้นในตอนเช้า ทำให้รู้สึกปวดหัว อ่อนเพลีย หรือไม่มีเรี่ยวแรงไปทั้งวัน นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายโหยอาหารหวานและมันมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะน้ำหนักเกินและปัญหาสุขภาพตับในระยะยาวได้

วิธีรับมือกับปัญหาเมลาโทนินตกค้าง

  1. เพื่อให้การนอนหลับกลับมามีคุณภาพ และไม่เกิดการตกค้างของฮอร์โมน ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนี้ ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมเมลาโทนินอย่างระมัดระวัง ไม่ควรใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานเกินไป
  2. ใช้ในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร
  3. สร้างวินัยการนอน เข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลาในทุกวัน หลีกเลี่ยงการนอนดึกเกินไปเพราะจะทำให้ร่างกายเสียสมดุล
  4. ลดการกระตุ้นจากสิ่งแวดล้อม ปิดหน้าจอมือถือและคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนอน ลดแสงไฟในห้องนอนเพื่อให้ร่างกายผลิตเมลาโทนินได้ตามธรรมชาติ
  5. ดูแลสุขภาพโดยรวม ออกกำลังกายสม่ำเสมอแต่ไม่ควรหนักเกินไปก่อนนอน หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์ในช่วงเย็น จัดห้องนอนให้น่าอยู่ เงียบสงบ และอุณหภูมิพอเหมาะ
  6. ดูแลสุขภาพตับให้แข็งแรง เพื่อให้ทำหน้าที่ขจัดเมลาโทนินออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เหลือตกค้างในร่างกาย

ซึ่ง พรูนัส มูเม่ สารสำคัญ ใน เฮฟฟีก้า อาหารเสริมบำรุงตับ สามารถฟื้นฟูการทำงานของตับได้ ด้วยการปกป้องเซลล์ตับไม่ให้ถูกทำลายจากปัจจัยลบต่างๆ และกระตุ้นการสร้างกลูต้าไธโอนจากภายใน เพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดสารพิษและขับของเสีย รวมถึงการขับเมลาโทนินให้เป็นไปตามปกติ

พรูนัส มูเม่ สกัดจาก ผลแอพริคอทญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสารสกัดธรรมชาติ 100% ทานต่อเนื่องได้ ไม่ตกค้างในร่างกาย ไม่ส่งผลต่อตับหรือไต หยุดทานก็ไม่มีผลข้างเคียง ไม่ใช่ยานอนหลับ  ผลิตและนำเข้าจากประเทศเบลเยียม มีงานวิจัยทางการแพทย์ในคนจริงยืนยันถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย ได้รับความไว้วางใจในการจำหน่ายที่โรงพยาบาลและร้านขายยาชั้นนำ Hepheka ภายใต้มาตรฐานและการดูแลของ Ropheka Thailand ยินดีและพร้อมให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพการนอนหลับรายบุคคล ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

Hepheka ยินดีและพร้อมให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพตับรายบุคคล ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ตามช่องทางที่ท่านสะดวกติดต่อสนง.ใหญ่ที่
เราใช้คุกกี้เพื่อประสบการณ์และการให้บริการที่ดีที่สุดในการใช้งานเว็บไซต์แก่ท่าน หากดำเนินการต่อหรือปิดข้อความนี้ลง แสดงว่าท่านได้ยอมรับ