คุณยังไม่มีสินค้าในรถเข็น
ไวรัสตับอักเสบ โรคที่ไม่แสดงอาการ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร?
29 ส.ค. 2018 14:29:29
ไวรัสตับอักเสบ โรคที่ไม่แสดงอาการ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร?
ไวรัสตับอักเสบ
โรคที่ไม่มีใครอยากเป็น 1 ในภัยเงียบที่คร่าชีวิตผู้คนด้วยการลุกลาม เป็นโรคร้ายต่อตับ เช่น ตับวาย ตับแข็ง มะเร็งตับ มาตรวจเช็คร่างกายกัน ว่าเรามีภัยเงียบนี้ในตัวหรือไม่?
ในประเทศไทยโรคตับอักเสบชนิดบีและซีเป็นสาเหตุสำคัญของโรคตับอักเสบเรื้อรังมากที่สุด เป็นต้นตอของโรคร้ายทั้งตับแข็งและโรคมะเร็งตับ
ที่มา สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค, ก.ค.60
การทำงานของ ไวรัสตับอักเสบ
ไวรัสที่เข้ามาในร่างกายจะติดอยู่กับเซลล์ตับแต่เชื้อไวรัสอาจจะยังไม่ได้ทำความเสียหายหรือลดประสิทธิภาพการทำงานของตับให้ลดลงในทันที
เซลล์ภูมิคุ้มกันจะทำหน้าที่ตรวจจับและทำลายสิ่งแปลกปลอมโดยสร้างลิมโฟไซต์ (lymphocyte) มากำจัดเชื้อไวรัส
แต่ด้วยเชื้อไวรัสมันติดอยู่กับเซลล์ตับมันจึงกำจัดเซลล์ตับไปด้วย ส่งผลให้เกิดการอักเสบของตับและเกิดอาการตับอักเสบเฉียบพลันจากเชื้อไวรัสได้
หากประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันสูงมากก็จะสามารถกำจัดไวรัสตัวต้นเหตุได้ หากภูมิคุ้มกันไม่สูงถึงขั้นนั้นร่างกายก็ไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสให้หมดไป จึงจำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อไวรัส
ระยะของ ไวรัสตับอักเสบ
ระยะของโรคไวรัสตับอักเสบอาจไม่สามารถกำหนดได้ชัดเจนขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อไวรัส ปริมาณและภูมิคุ้มกันของร่างกาย พอกล่าวโดยสังเขปได้ดังนี้
ไวรัสตับอักเสบบี
ไวรัสตับอักเสบบี 1-3 เดือนแรกหลังจากได้รับเชื้อในบางรายสามารถหายเป็นปกติจากภูมิต้านทาน ส่วนรายที่ไม่สามารถหายเองได้ ส่วนใหญ่พบว่าไม่มีอาการแสดง แต่สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้
1-3 เดือนแรก เรียกว่าระยะเฉียบพลัน ไม่ค่อยพบอาการที่รุนแรงมากนัก แต่หากการติดเชื้อดำเนินต่อไปเป็นเวลา 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งก็คือระยะเรื้อรัง ตับอักเสบเฉียบพลันกับเรื้อรังใช้เวลาตัดกันที่ 6 เดือน โดยระยะเรื้อรังอาจพบภาวะแทรกซ้อน เช่น ตับแข็งและมะเร็งตับ ซึ่งอาการก็จะแตกต่างกันออกไป ความรุนแรงขึ้นอยู่กับระดับการอักเสบของตับ
ไวรัสตับอักเสบซี
ไวรัสตับอักเสบซี ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ ซี ถึงแม้ว่าเป็นระยะเรื้อรัง ก็อาจยังไม่แสดงอาการจนกว่าตับจะถูกทำลายอย่างรุนแรงแล้วอาการจึงจะปรากฏ
อาการจาก ไวรัสตับอักเสบ
อาการที่กล่าวมาทั้งหมดเป็น 1 ในข้อตั้งสังเกตุว่าเราอาจมีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซีได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่อาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นๆ หายๆ ถ้าเข้าข่ายอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อการรักษาที่ทันถ้วงที เพราะ ไวรัสตับอักเสบ ชื่อของมันก็บ่งบอกความรุนแรงในตัวเองอยู่แล้ว นั่นคือการทำให้ตับอักเสบนั่นเอง ระดับความเสียหายของเซลล์ตับขึ้นอยู่กับระดับการอักเสบในเซลล์ตับ ซึ่งการอักเสบในตับสามารถดำเนินจนเกิดเป็นโรคร้ายแรงในตับได้ เช่น ตับวาย ตับแข็ง และมะเร็งตับได้ในที่สุด
อย่าปล่อยให้ความเงียบ ไม่แสดงอาการของโรคร้ายแรงนี้ ทำให้เรานิ่งนอนใจ ไม่ตระหนักถึงความรุนแรงและผลร้ายปลายทาง ป้องกันด้วยการตรวจเช็คสุขภาพวันนี้ ดีกว่าต้องรักษาเยียวยาในวันหน้า
การรักษา ป้องกัน ไวรัสตับอักเสบ
ทางที่ดีที่สุดคือ ตรวจเช็ค, รักษา, ป้องกัน ด้วย การดูแลตัวเองไม่ให้ติดเชื้อและตรวจเช็คร่างกายเป็นประจำ หากพบเจอก็ต้องรีบรักษาโดยเร็วเพื่อชะลอการเกิดภาวะแทรกซ้อน หรือไม่ทำให้เกิดการกระตุ้นการอักเสบของตับเพื่อป้องกันการลุกลามของโรคที่ร้ายแรงต่อเซลล์ตับจากไวรัสตับอักเสบบีและซี เช่น ตับวาย ตับแข็งและมะเร็งตับ
Hepheka ทางเลือกของคนที่สุขภาพตับเสี่ยงโดนทำลายจากไวรัสตับอักเสบบีและซี
- ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารฟื้นฟูตับที่มีผลวิจัยทางการแพทย์รองรับ
- ลดค่าตับอักเสบ ALT และ AST อย่างเห็นผล
- ลดระดับไขมันในร่างกายเพื่อลดและป้องกันโรคไขมันพอกตับ
- ต่อต้านอนุมูลอิสระจากภายในเพื่อป้องกันการอักเสบของตับ
- ยับยั้งสื่อกลางการเกิดการอักเสบ ลดความรุนแรงและความเสี่ยงการเกิดภาวะพังผืดในตับ